การที่จะแสดงละครได้นั้น ผู้แสดงต้องมีการฝึกซ้อมรับส่งบทกับตัวละครอื่นๆ เพื่อให้รู้ปฏิกิริยาท่าทาง และสีหน้าของฝ่ายตรงข้าม แม้ว่าตัวละครที่เป็นตัวประกอบจะไม่มีบทพูดแต่ก็ต้องแสดงบุคลิกลักษณะให้สมบทบาทตามเนื้อเรื่อง นอกจากนักแสดงที่มีบทความสำคัญแล้วยังมีหัวใจหลักที่สำคัญในการทำละครอีกก็คือ ผู้กำกับเวทีนั่นเอง
ผู้กำกับละครเวที ถ้าจะเปรียบเทียบการจัดแสดงละครเหมือนครอบครัวใหญ่ ๆ ผู้กำกับเวทีเปรียบได้กับแม่บ้านที่มีหน้าที่ดูแลทุกข์สุขของทุกคนและดำเนินการทุกอย่างเพื่อให้งานของทุกฝ่ายบรรลุผลตามเป้าหมาย ผู้กำกับเวทีเปรียบเสมือนแขนขวาของผู้กำกับการแสดง มีหน้าที่ช่วยเหลืองานทุกด้านเพื่อให้ผู้กำกับการแสดงไม่ต้องห่วงกังวล และสามารถทุ่มเทกำลังความสามารถให้กับการสร้างสรรค์งานศิลปะอย่างเต็มที่ สำหรับหน้าที่ของผู้กำกับ มีดังนี้
1.ประสานงานทุกฝ่าย เพื่อให้ละครมีความเรียบร้อย เพื่อความสำเร็จลุล่วง
2.กำหนดการดำเนินงาน ระบุช่วงเวลาต่างๆ เพื่อให้ทุกอย่างเสร็จตามเวลาที่กำหนด
3.ผู้กำกับเวทีต้องสามารถตัดสินใจแก้ปัญหาไปเองแล้วรายงานให้ผู้กำกับการแสดงทราบ แต่ถ้าเป็นเรื่องที่ไม่แน่ใจ ก็ควรจะต้องปรึกษาผู้กำกับการแสดงและได้รับความเห็นชอบก่อนลงมือ
4.ขอความเห็นชอบจากผู้กำกับการแสดงโดยอาจจัดทำมาก่อนแล้วเสนอต่อผู้กำกับการแสดง ว่างานชิ้นนี้ผู้กำกับเห็นด้วยหรือไม่
5.ติดตามดูแลให้นักแสดงมาซ้อมตามวันเวลาที่กำหนดไว้ หากผู้ใดติดขัดหรือจำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลง ใด ๆ ต้องรายงานให้ผู้กำกับการแสดงทราบ
6.ต้องมาดูการซ้อมทุกครั้งแทนผู้กำกับ
7.จัดเตรียมสถานที่ ต้องเตรียมเวทีให้เหมาะสมสำหรับฉากนั้นก่อนที่ผู้กำกับการแสดงจะมาถึง
8.จดตำแหน่งของการเคลื่อนไหวของตัวละคร ตลอดจนแนวทางสำคัญของการแสดงที่ผู้กำกับการแสดงให้แก่ตัวละครลงในสมุดคู่มือการซ้อมทุกครั้งเพื่อเป็นเครื่องเตือนความจำ
9.เตือนนักแสดงที่ลืมบทระหว่างซ้อมโดยบอกเฉพาะคำต้นของประโยคที่ลืม
10.ควบคุมการปล่อยตัวละคร
11.ตัดสินใจแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นทุกอย่าง ดูแลความเรียบร้อยของทุกฝ่าย ประสานงานกับฝ่ายต่างๆ เพื่อให้เกิดความพร้อม
12.คอยให้สัญญาณกับนักแสดง